ครอบครองที่ดินคนอื่นได้กรรมสิทธิ์ โดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่

ทนายเล่าเรื่อง

ครอบครองที่ดินคนอื่น แต่เข้าใจว่าเป็นที่ดินตัวเอง 

ได้กรรมสิทธิ์โดย การครอบครองปรปักษ์ หรือไม่

ครอบครองที่ดินคนอื่นได้กรรมสิทธิ์ โดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่

                    #ทนายเล่าเรื่อง วันนี้มากับคดีที่ดินที่ผมเชื่อว่าหลายคนลอยคอรอคอยกันอยู่แน่ๆ คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ครับ โดยที่ผมจะเน้นไปที่ประเด็นเรื่องการครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของว่า ในการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของนี้เราจะต้องรู้ด้วยหรือไม่ว่าที่ดินนั้นเป็นของคนอื่น เพราะกฎหมายกำหนดว่าการครอบครองปรปักษ์ต้องครอบครองที่ดินของผู้อื่น แต่ถ้าเราครอบครองที่ดินผู้อื่นจริงแต่เราเข้าใจว่าที่ดินเป็นของตัวเองหรือครอบครองที่ดินตัวเองล่ะ แบบนี้จะได้กรรมสิทธิ์หรือไม่ เราไปดูกันครับ

                  คดีนี้ นายแลนด์ เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 555 เนื้อที่ 5 ไร่ และนายตึก เป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3) เลขที่ 22 เนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่ง นส.3 ของนายตึกนี้มีการออกทับกับโฉนดที่ดินของนายแลนด์ แต่นายแลนด์ไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้นายตึกทำกินบนที่ดินตาม นส. 3 ตั้งแต่ปี 2525 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ.2565) ซึ่งนายตึกก็ไม่ได้รู้เรื่องเหมือนกันว่าที่ดินตาม นส.3 ของตนไปทับที่ของนายแลนด์ นายตึกครอบครองโดยเข้าใจมาโดยตลอดว่า ครอบครองทำกินอยู่บนที่ตามนส. 3 ของตนเอง มารู้ว่าทับที่ของนายแลนด์ก็เมื่อนายแลนด์นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดที่ของตน ซึ่งนายตึกก็ได้ไปคัดค้านการรังวัดว่ามันกินเข้ามาในที่ของตน นายตึกจึงชิงร้องต่อศาลขอแสดงกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์

                  เมื่อยื่นคำร้องขอครอบครองปรปักษ์ไป แน่นอนว่านายแลนด์ก็เข้ามาคัดค้านโดยอ้างว่านายตึกครอบครองที่ดินของตนเองโดยไม่ชอบและนายตึกครอบครองโดยเข้าใจว่าเป็นที่ดินของตนเอง ไม่ใช่ที่ดินของคนอื่น จึงขาดองค์ประกอบเรื่องครอบครองที่ดินของคนอื่นด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ

            เป็นยังไงกันบ้างครับมาถึงตรงนี้แล้ว ลุ้นกันใช่ไหมล่ะว่านายตึกจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินไหม งั้นถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันดีกว่าครับว่า ศาลจะมองกรณีแบบนี้ว่ายังไง

            ศาลมองว่า นายตึกครอบครองปรปักษ์ครบตามองค์ประกอบที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้วเพราะข้ออ้างที่นายแลนด์กล่าวอ้างว่าการที่นายตึกครอบครองที่ดินโดยเข้าใจว่าที่ดินพิพาทเป็นของนายตึกเองนั้น ไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย ศาลเห็นว่า การครอบครองที่ดินโดยมีเจตนาเป็นเจ้าของ แม้จะเข้าใจว่าเป็นที่ดินของตนเองก็ตาม ก็ถือเป็นการครอบครองที่สามารถนับระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์ได้ ไม่ใช่นับแต่ที่นายตึกรู้ว่าที่ดินพิพาทที่นายตึกครอบครองนั้นเป็นที่ดินของนายแลนด์เพราะถือว่าเป็นการครอบครองโดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว นายตึกจึงได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ไปครับ

          ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า การที่เราจะครอบครองปรปักษ์ที่ดินสักที่นั้นดูให้ครบหลักเกณฑ์ก็พอครับ คือ เราต้องครอบครองที่ดินมีโฉนดของผู้อื่นโดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถึงจะเข้าใจว่าที่ดินที่ครอบครองเป็นที่ของตัวเอง ก็ถือว่าครอบครองที่ดินผู้อื่นด้วยเจตนาเป็นเจ้าของแล้ว ถ้าเข้าองค์ประกอบอื่นอีก ก็เรียบร้อยครับ ได้กรรมสิทธิ์ไปตามกฎหมายทันที
              อ้างอิง : ฎ.2641/2550

รวมสาระที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ #ทนายเล่าเรื่อง มาให้ชมกัน

ติดต่อ ปรึกษาทนาย หรือ จ้างทนาย คลิก!

บทความกฎหมายล่าสุด

บิดาหรือมารดาที่จดทะเบียนกัน จะฟ้องขอปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ต้องหย่ากันก่อนเท่านั้นหรือไม่

บิดาหรือมารดาที่จดทะเบียนกัน จะฟ้องขอปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ต้องหย่ากันก่อนเ

อ่านเพิ่มเติม »