หยุดในวันหยุดประจำปีที่นายจ้าง...ต้องจ่ายเงินหรือไม่?

ในวันนี้ผมขอหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดประจำปีของลูกจ้าง ว่ากรณีดังกล่าวนายจ้างต้องจ่ายหรือไม่ และมาดูกันว่าในศาลชั้นต้น ศาลชั้นอุทธรณ์ และศาลชั้นฎีกา มีคำสั่งเช่นไรกับข้อเท็จจริงนี้ครับ

หยุดในวันหยุดประจำปีที่นายจ้าง...ต้องจ่ายเงินหรือไม่?

หยุดในวันหยุดประจำปีที่นายจ้าง...ต้องจ่ายเงินหรือไม่?

                      #ทนายเล่าเรื่อง ในวันนี้ผมขอหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดประจำปีของลูกจ้าง ว่ากรณีดังกล่าวนายจ้างต้องจ่ายหรือไม่ และมาดูกันว่าในศาลชั้นต้น ศาลชั้นอุทธรณ์ และศาลชั้นฎีกา มีคำสั่งเช่นไรกับข้อเท็จจริงนี้ครับ

                    เหตุการณ์เกิดขึ้นจากนาย ก. ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงานที่ 62/2543 ลงวันที่ 28 เมษายน 2543 แล้วนาย ข.ให้การขอให้ยกฟ้อง
                    ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า นาย ข.เป็นลูกจ้างนาย ก. โดยมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีในปี 2543 ได้13 วัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 นาย ข. ลาหยุดพักผ่อนประจำปีรวม 8 วัน โดยนาย ก. อนุญาต เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 นาย ข. ลาออกโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2543 ถือได้ว่านาย ก.ในฐานะนายจ้างและนาย ข.ในฐานะลูกจ้างได้ตกลงกันให้นาย ข. หยุดพักผ่อนประจำปี 2543 รวม 8 วัน จึงเป็นการหยุดพักผ่อนประจำปีที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการใช้สิทธิของลูกจ้างโดยสุจริต นาย ก.ไม่มีสิทธิหักค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี 2543 ที่นาย ข.ได้ลาหยุดไปแล้วก่อนลาออก ศาลแรงงานกลางจึงพิพากษายกฟ้องนาย ข. 

                     นาย ก. อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา 2 ประเด็น โดยกระผมขอกล่าวถึงประเด็นที่ 2 คือ ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้างตามส่วนของวันหยุดพักผ่อนประจำปี ซึ่งตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฯ มาตรา 67 บัญญัติให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนเฉพาะกรณีที่ลูกจ้างมิได้มีความผิดตามมาตรา 119 การที่กฎหมายกำหนดให้นำความผิดตามมาตรา 119 มาประกอบการพิจารณาการได้ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีของลูกจ้าง เพราะความผิดดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่จะชี้ว่านายจ้างเลิกจ้างด้วยเจตนากลั่นแกล้งไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปจนครบ 1 ปีหรือไม่ ถ้าลูกจ้างไม่มีความผิดตามมาตรา 119 แต่ถูกเลิกจ้าง ถือว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุอันสมควรและเป็นการกลั่นแกล้งลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างไม่อาจทำงานต่อไปได้และต้องเสียสิทธิที่จะได้หยุดพักผ่อนประจำปีตามมาตรา 30 ดังนั้น ในปีที่เลิกจ้างแม้ลูกจ้างจะทำงานยังไม่ครบ 1 ปี นายจ้างจะต้องชดใช้สิทธิที่ลูกจ้างต้องเสียไป แต่หาได้นำมาใช้บังคับแก่กรณีลูกจ้างลาออกจากงานโดยความสมัครใจด้วยไม่ เพราะการลาออกโดยความสมัครใจของลูกจ้างย่อมไม่เป็นการกลั่นแกล้งของนายจ้าง นายจ้างจึงไม่ต้องชดใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีที่ลูกจ้างต้องเสียไปจากการลาออก 

                 ในปีที่นาย ข. ลาออก นาย ก.ในฐานะนายจ้างกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่นาย ข. 13 วัน และก่อนลาออกนาย ก.อนุญาตให้นาย ข. ลาหยุดพักผ่อนประจำปี 8 วัน การหยุดพักผ่อนประจำปีดังกล่าว เป็นการหยุดตามที่นาย ก.และนาย ข. ตกลงกันโดยสุจริต จึงเป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปีโดยชอบของนาย ข. แต่เมื่อนาย ข. หยุดพักผ่อนประจำปีตามสิทธิและตามวันที่ได้ตกลงกับนาย ก.ไปแล้วก่อนลาออก นาย ก. ต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเต็มจำนวน 8 วันให้แก่นาย ข. ศาลฎีกาพิพากษายืน

                  จะเห็นได้ว่า ถ้าลูกจ้างลาออก โดยการลาออกลูกจ้างใช้สิทธิตามวันหยุดประจำปีตามที่ตกลงกันแล้ว นายจ้างไม่มีสิทธิปฏิเสธไม่จ่ายเงิน โดยอ้างว่า ลูกจ้างใช้สิทธิวันหยุดโดยไม่ชอบไม่ได้ เว้นแต่ลูกจ้างลาออกโดยสมัครใจ
                  (อ้างอิง : ฏ.8324/2544)

รวมสาระที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ #ทนายเล่าเรื่อง มาให้ชมกัน

ติดต่อ ปรึกษาทนาย หรือ จ้างทนาย คลิก!

บทความกฎหมายล่าสุด