บุตรที่มีสิทธิรับมรดกตามกฎหมายไทย
เมื่อบุคคลเสียชีวิต ทรัพย์สินที่เขามีอยู่จะถูกถ่ายโอนไปยังทายาทตามกฎหมายหรือพินัยกรรม หนึ่งในกลุ่มทายาทที่มีสิทธิได้รับมรดกคือ “บุตรที่มีสิทธิรับมรดก” อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่า “บุตรทุกคนมีสิทธิรับมรดกหรือไม่?” หรือ “บุตรนอกสมรสสามารถรับมรดกจากบิดาได้หรือไม่?” บทความนี้จะอธิบายประเภทของบุตรที่มีสิทธิรับมรดก รวมถึงหลักเกณฑ์ตามกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจอย่างถูกต้อง
บุตรที่มีสิทธิรับมรดกตามกฎหมายไทย
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 กำหนดให้ บุตรเป็นทายาทโดยธรรมลำดับที่หนึ่ง ซึ่งหมายความว่าบุตรมีสิทธิได้รับมรดกของบิดามารดา หากไม่มีพินัยกรรม ทรัพย์สินของผู้ตายจะถูกแบ่งให้แก่ทายาทโดยธรรมตามกฎหมาย
1 บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
– หมายถึงบุตรที่เกิดจากการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายของบิดามารดา
– รวมถึงบุตรนอกสมรสที่ ได้รับการรับรองโดยบิดาอย่างถูกต้องตามกฎหมายครอบครัว เมื่อบุตรได้รับการรับรองแล้ว มีสถานะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย และได้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม เท่าเทียมกับบุตรที่เกิดจากการสมรส
1.2 บุตรนอกกฎหมายที่บิดามีพฤติการณ์รับรอง (บุตรโดยพฤตินัย)
– ตาม มาตรา 1627 “บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้ว” หมายถึงบุตรที่บิดา แสดงพฤติกรรมยอมรับเป็นบุตร เช่น ส่งเสียค่าเลี้ยงดู หรือแสดงออกต่อสาธารณะว่าเป็นบุตรของตน
บุตรโดยพฤตินัยไม่ได้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังมีสิทธิรับมรดก ตามมาตรา 1627
อย่างไรก็ตาม หากเกิดข้อพิพาท อาจต้องพิสูจน์ต่อศาลว่าบิดามีพฤติการณ์รับรองจริง
1.3 บุตรบุญธรรม
– บุตรบุญธรรมที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับสิทธิเทียบเท่ากับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิรับมรดกจากบิดามารดาบุญธรรมตาม มาตรา 1627
อย่างไรก็ตาม บุตรบุญธรรมยังมีสิทธิรับมรดกจากครอบครัวเดิมของตน
บุตรที่ไม่มีสิทธิรับมรดก
1 บุตรนอกสมรสที่บิดาไม่รับรอง
– หากบิดาไม่เคยรับรองบุตรนอกสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บุตรนั้นจะไม่มีสิทธิรับมรดกจากบิดา ตาม มาตรา 1629 อย่างไรก็ตาม บุตรยังสามารถ รับมรดกจากมารดาได้โดยอัตโนมัติ
2 บุตรที่ถูกตัดสิทธิทางกฎหมาย
– ตามมาตรา 1606 หากบุตรกระทำผิดร้ายแรงต่อบิดามารดา เช่น ทำร้ายร่างกาย หรือฉ้อโกง ศาลสามารถมีคำสั่งให้บุตรถูกตัดสิทธิรับมรดกได้
วิธีการรับมรดกของบุตร
1 กรณีมีพินัยกรรม
– หากบิดามารดาทำพินัยกรรมระบุให้บุตรคนใดได้รับมรดก บุตรจะได้รับมรดก ตามพินัยกรรม
พินัยกรรมต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามมาตรา 1655 มิฉะนั้นอาจถูกโต้แย้งได้
2 กรณีไม่มีพินัยกรรม
– หากไม่มีพินัยกรรม มรดกจะแบ่งตามลำดับทายาทโดยธรรมตามมาตรา 1629 บุตรที่มีสิทธิรับมรดก จะได้รับส่วนแบ่งเท่า ๆ กัน
– หากมีคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ คู่สมรสจะได้รับมรดกร่วมกับบุตร ในสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด
ปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการรับมรดกของบุตร
1 การพิสูจน์ความเป็นบุตร
– บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องนำหลักฐานพิสูจน์ความเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น ทะเบียนรับรองบุตร เป็นต้น มาใช้ยืนยัน
– บุตรโดยพฤตินัย (มาตรา 1627) ต้องนำหลักฐานที่แสดงว่าบิดายอมรับเป็นบุตร เช่น เอกสารการส่งเสีย พยานบุคคล เป็นต้น มาพิสูจน์ต่อศาล
– บุตรบุญธรรม อาจต้องใช้เอกสารการจดทะเบียนบุตรบุญธรรมเป็นหลักฐานยืนยันสิทธิรับมรดก
2 ปัญหาหนี้สินที่ติดมากับมรดก ตามมาตรา 1601 บุตรที่รับมรดกต้องรับผิดชอบหนี้สินของผู้ตาย ตามสัดส่วนที่ได้รับมรดก
3 ข้อพิพาทระหว่างพี่น้อง อาจมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับ การแบ่งทรัพย์สินมรดก ซึ่งอาจต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน
ข้อแนะนำในการจัดการมรดกเพื่อป้องกันปัญหา
– ทำพินัยกรรมให้ชัดเจน เพื่อป้องกันข้อพิพาท
– แจ้งรับรองบุตรโดยถูกต้องตามกฎหมายครอบครัว หากเป็นบุตรนอกสมรส
– ใช้บริการทนายความ เพื่อช่วยดำเนินการด้านเอกสารและให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการแบ่งมรดก
สรุป
สิทธิของ บุตรที่มีสิทธิรับมรดก ขึ้นอยู่กับสถานะทางกฎหมายของบุตร หากเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือบุตรที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมายครอบครัว จะมีสิทธิรับมรดกโดยอัตโนมัติ หากเป็น บุตรโดยพฤตินัย อาจต้องพิสูจน์สิทธิของตนก่อน อย่างไรก็ตาม การวางแผนทำพินัยกรรมและการรับรองบุตรอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันข้อพิพาทเกี่ยวกับมรดกในอนาคต
หากคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับ สิทธิของบุตรในการรับมรดก สามารถติดต่อสำนักงานกฎหมายของเราเพื่อขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ทันที
หวังว่าบทความที่แก้ไขนี้ จะมีประโยชน์ต่อการเขียนบทความของคุณ หากคุณต้องการคำแนะนำทางกฎหมายเพิ่มเติม ติดต่อเรา
ติดต่อ ปรึกษาทนายคดีมรดกหรือ จ้างทนายคดีมรดก คลิก!