ยืมเงินผ่านแชท ใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ ?

กู้เงินผ่านแชท ใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ ?

ปัจจุบันเรียกได้ว่าธุรกรรมส่วนใหญ่ที่เราทำกันในชีวิตประจำวันแทบจะเป็นธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางออนไลน์กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน การสั่งซื้อสินค้า หรือใช้บริการต่างๆ และที่สำคัญและเป็นปัญหามากในทุกวันนี้ก็คือการกู้ยืมเงินกันทางออนไลน์หรือกู้ยืมเงินกันผ่านแชท แล้วไม่ได้ทำเป็นสัญญากู้ยืมเงินกันไว้ แบบนี้จะสามารถฟ้องคดีได้หรือไม่ เราไปดูกันเลยครับ

การกู้ยืมเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ในเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วางหลักว่า การกู้ยืมเงินกว่า 2,000 บาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้กู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ คือตามกฎหมายถ้าเรากู้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาทขึ้นไป กฎหมายให้ทำเป็นหนังสือหรือสัญญาไว้ ถ้าไม่ทำก็จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้นั่นเอง

ใช้แชทเป็นหลักฐาน ตามพ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ดังนั้น การกู้ยืมเงินกันผ่านแชทมันแน่นอนอยู่แล้วว่าจะไม่มีการทำเป็นหนังสือหรือสัญญาอะไรอย่างแน่นอน ถ้างั้นเท่ากับว่าเราจะไม่มีทางฟ้องคดีได้เลยใช่ไหมถ้าเราไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ ยังมีทางอื่นอยู่ซึ่งจะต้องไปใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 (พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์) ครับ

คือตามบทนิยามในพ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นี้ โดยสรุปก็จะถือได้ว่า ข้อความที่คุยกันผ่านแชทไม่ว่าจะเป็นทาง Line หรือ Facebook ข้อความเหล่านั้นถือเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ครับ ซึ่งข้อความที่ผู้กู้ยืมเงินและผู้ให้กู้ยืมเงินได้สื่อสารขอกู้ยืมเงินกันโดยผ่านการส่งข้อความสื่อสารกันผ่านทางไลน์ (LINE) หรือทางเฟสบุ๊ค (Facebook) นั้นกฎหมายถือว่าได้ทำเป็นหนังสือต่อกันระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้แล้ว ดังนั้นก็สรุปได้ว่าการกู้ยืมเงินกันผ่านแชทจึงใช้เป็นหลักฐานได้ครับ

ถ้าจะฟ้องคดีกู้ยืมเงินกันผ่านแชท แชทก็สำคัญ แต่ก็ยังมีอย่างอื่นที่ต้องใช้เป็นหลักฐานคู่กันด้วย ดังนี้ครับ

1.ข้อความแชทที่แสดงถึงการกู้ยืมเงินกัน

2.บัญชีผู้ใช้ของผู้กู้

3.หลักฐานการโอนเงินหรือสลิปการโอน

ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็ควรจะต้องเป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือด้วยครับ คือข้อมูลนั้นจะต้องระบุผู้ใช้ของผู้กู้เงินได้ จะต้องอยู่ในระบบที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ เช่น แอปพลิเคชัน Line หรือ Facebook เป็นต้น และจะต้องรักษาข้อมูลต่างๆ ให้อยู่ในสภาพเดิม โดยไม่มีการแก้ไข ถ้าทำได้แบบนี้ก็เหมือนการฟ้องตามสัญญากู้ยืมเงินที่มีสัญญาเป็นหนังสือตามปกติเลยครับ

โดยผมขอย้ำตัวข้อความในแชทนิดนึง คือ ในแชทจะต้องมีข้อความที่แสดงถึงการขอกู้ยืมเงิน เงินที่จะกู้เป็นจำนวนเท่าไหร่ และเห็นตัวบัญชีผู้ใช้ว่าใครเป็นคนที่มาขอยืมเงิน เนื่องจากตัวแชทนี้สำคัญมากในการนำสืบ เรียกว่าเป็นตัวเอกเลย คือจะคุยกันยังไงก็ได้ แต่พออ่านแล้วมันได้ใจความว่าผู้กู้ได้กู้ยืมเงินไปและมีการยืนยันว่าจะคืนเงินนั้นก็พอครับ เพราะฉะนั้นผู้ให้กู้ทั้งหลายห้ามพลาดเด็ดขาด พยายามให้มีข้อความตามที่ผมได้บอกไป ก็จะอุ่นใจขึ้นอีกไปอีกเปราะนึงครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม คดีแพ่ง คลิก!

ติดต่อ ปรึกษาทนายคดีแพ่งหรือ จ้างทนายคดีแพ่ง คลิก!