คู่มือทำพินัยกรรม-ผู้สูงอายุ และทำพินัยกรรม-คนป่วย ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
หลักกฎหมายพินัยกรรมแบบสรุป (เข้าใจง่าย)
พินัยกรรม คือคำสั่งสุดท้ายเกี่ยวกับทรัพย์สินและเรื่องส่วนตัวที่จะมีผลเมื่อผู้ทำถึงแก่ความตาย อยู่ใน ป.พ.พ. บรรพ 6 (มรดก) หมวดพินัยกรรม
ความสามารถของผู้ทำพินัยกรรม: โดยหลักต้องมีสติสัมปชัญญะ เข้าใจสิ่งที่ลงนาม และ อายุอย่างน้อย 15 ปีบริบูรณ์ (ผู้เยาว์อายุ 15–ไม่ถึง 20 ปี ทำพินัยกรรมได้โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้แทนโดยชอบฯ)
แบบของพินัยกรรมที่ใช้จริงบ่อย
1.แบบทั่วไป : พิมพ์/เขียนก็ได้ แต่ต้อง ลงลายมือชื่อผู้ทำ และมี พยานอย่างน้อย 2 คน เซ็นต่อหน้า พร้อมลงวันเดือนปีให้ชัด
2.แบบต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (ที่สำนักงานอำเภอหรือเขต): เจ้าหน้าที่บันทึกและอ่านให้ฟังต่อหน้าพยาน กรณีผู้สูงอายุหรือคนป่วยนิยมมากเพราะ “ปลอดภัยเรื่องรูปแบบ”
3.แบบเขียนเองด้วยลายมือผู้ทำ : เขียนทั้งฉบับด้วยลายมือผู้ทำเอง ต้องระบุวันเดือนปีและลงชื่อ แต่ข้อพิสูจน์ลายมืออาจยุ่งยากกับทายาท
ข้อคิดจากทนาย: ถ้าต้องการ “ความปลอดภัยสูงสุดด้านรูปแบบ” ให้เลือกทำ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ แบบเอกชนที่มีพยานครบ และบันทึกขั้นตอนให้พิสูจน์ย้อนหลังได้
เงื่อนไขความสามารถของผู้ทำพินัยกรรม (สำคัญที่สุด)
กฎหมายจะมอง 2 เรื่องเป็นสำคัญ คือ
1.สติสัมปชัญญะ ณ ขณะลงนาม โดยทำนองว่า เข้าใจทรัพย์ของตนและทราบถึงการยกทรัพย์นั้นว่าให้ใคร
2.ความสมัครใจ ไม่มีการข่มขู่ หลอกลวง หรือชี้นำจนผู้ทำไม่เป็นอิสระ
สำหรับการทำพินัยกรรมของผู้สูงอายุหรือของคนป่วยนั้น ควรจัดทำ ใบรับรองแพทย์ ระบุว่าสื่อสารรู้เรื่อง มีสติสัมปชัญญะ ณ วันที่ลงนาม, จัดให้มี พยานเป็นกลาง ต้องไม่ใช่ทายาทผู้ได้ประโยชน์ และ บันทึกวิดีโอ ช่วงอ่านหรืออธิบายพินัยกรรม และช่วงลงนามพินัยกรรม
ความเห็นทนาย: หากผู้ทำ “ลายมือสั่น/อ่านหนังสือลำบาก” ให้ทำ ที่สำนักงานอำเภอหรือเขต เพื่อให้เจ้าหน้าที่อ่านให้ฟังและลงบันทึกตามแบบทางราชการ
วิธีทำพินัยกรรมที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ/คนป่วย
ทางเลือก A: ทำที่สำนักงานอำเภอหรือเขต (พินัยกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
– นัดหมายล่วงหน้า แจ้งว่าผู้ทำเป็นผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยและต้องการความช่วยเหลือ
– เจ้าหน้าที่จะ อ่านเนื้อหา ต่อหน้าพยานและผู้ทำ ก่อนลงนามในแบบพิมพ์ของทางราชการ
– เหมาะมากเมื่อกังวลเรื่องพิสูจน์สติ ความเข้าใจ และความสมัครใจ
ทางเลือก B: ทำแบบทั่วไป (ทนายร่าง–อ่านให้ฟัง–ลงนามต่อหน้าพยาน)
– ทนายเตรียมร่างพินัยกรรมครบองค์ประกอบ อ่านให้ผู้ทำฟัง ชัดเจน
– ลงนามต่อหน้า พยาน 2 คน
– ให้พยานลง คำรับรอง ว่าเห็นผู้ทำมีสติ เข้าใจ และลงนามต่อหน้าเก็บ ภาพนิ่งและวิดีโอ ขณะอ่านและลงนาม + มีใบรับรองแพทย์
เนื้อหาพินัยกรรมที่ควรมี (โครงสร้างใช้งานจริง)
1.ระบุตัวผู้ทำ: ชื่อ–เลขบัตร–ที่อยู่–สถานะสมรส
2.เพิกถอนพินัยกรรมเดิม: “เพิกถอนพินัยกรรม/คำสั่งเสียที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด”
3.แต่งตั้งผู้จัดการมรดก: ระบุบุคคล และอำนาจในการรวบรวมทรัพย์–ชำระหนี้–ขายหรือโอนตามจำเป็น
4.ยกทรัพย์เฉพาะรายการ (Specific bequests): ระบุทรัพย์ให้ชัด ได้แก่ เลขโฉนด, เลขห้องชุด, บัญชีธนาคารหรือ เลขทะเบียนรถ ฯลฯ
5.ทรัพย์ส่วนที่เหลือทั้งหมด (Residuary clause): “ทรัพย์สินอื่นใดที่มิได้ระบุไว้ ให้แก่ …”
6.เงื่อนไขพิเศษ: เช่น ให้ดูแลบุพการี/สัตว์เลี้ยง, ตั้งกองทุนการศึกษา, หรือกำหนดอายุรับมอบ
7.ผู้ปกครองทรัพย์ของผู้เยาว์: หากผู้รับเป็นผู้เยาว์ ให้ระบุผู้ดูแลทรัพย์แทนจนถึงอายุที่กำหนด (การจัดการทรัพย์ยังต้องเป็นไปตามกฎหมาย)
8.คำขอทางศาสนา/งานศพ (ถ้าต้องการ)
9.วันเดือนปี–สถานที่ + ลายมือชื่อผู้ทำ
10.ส่วนพยาน (กรณีแบบทั่วไป): พยาน 2 คนลงชื่อ พร้อมระบุว่า “ลง คำรับรอง ว่าเห็นผู้ทำมีสติ เข้าใจ และลงนามต่อหน้า”
เอกสารที่ต้องมีและควรเตรียมล่วงหน้าในการทำพินัยกรรม
1.บัตรประชาชน ทะเบียนบ้านของผู้ทำ
2.บัญชีทรัพย์สิน: โฉนด/เอกสารห้องชุด, เอกสารรถ, รายการบัญชีเงินฝาก/กองทุน/หลักทรัพย์, กรมธรรม์
3.เอกสารสถานะครอบครัว: ทะเบียนสมรส/ใบหย่า/สูติบุตร
4.ใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้สูงอายุหรือคนป่วย
5.ข้อมูล ผู้จัดการมรดก และ ผู้รับพินัยกรรม (ชื่อนามสกุลและเลขบัตรประชาชน)
6.ภาพถ่ายและวิดีโอผู้ทำกับพยาน ณ วันลงนาม
ใครเป็น “พยานที่ถูกต้อง”
พยานที่ถูกต้อง ต้องเป็นบุคคลบรรลุนิติภาวะ มีความสามารถ เข้าใจภาษาไทยที่อ่านและที่ได้อธิบายให้ฟัง และไม่เกี่ยวข้องโดยได้ประโยชน์จากพินัยกรรมฉบับนั้น
บุคคลที่เป็นพยานในพินัยกรรมไม่ได้ คือผู้รับประโยชน์ตามพินัยกรรม รวมถึงคู่สมรสของผู้รับประโยชน์, ผู้เยาว์, คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ทนายแนะนำ: ควรใช้ พยานภายนอกและเป็นกลาง เช่น เพื่อนบ้านของผู้ทำพินัยกรรม ฯลฯ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และวิธีเลี่ยง
1.ในกรณีวันทำพินัยกรรมแบบทั่วไปไม่มีพยานครบ 2 คน → นัดพยานล่วงหน้าและเตรียมสำรอง 1 คน
2.พยานเป็นผู้ได้ประโยชน์ ทำให้ “ทำให้พินัยกรรมโมฆะเฉพาะส่วน” และเกิดคดีตามมา
3.ไม่ลงวันที่และลงไม่ครบหน้า → ทุกหน้าควรให้ ลงลายชื่อ ของผู้ทำและพยาน
4.ถ้อยคำคลุมเครือ: “บ้านของฉัน” โดยไม่ระบุเลขที่/โฉนด → ระบุทรัพย์เจาะจงเสมอตามเอกสารทรัพย์ เช่น ตามข้อมูลในโฉนด
5.ขัดกับกฎหมายครอบครัว/สินสมรส: ทรัพย์สินระหว่างสมรสอาจเป็นสินสมรสครึ่งหนึ่ง ต้องตรวจสถานะก่อนทำพินัยกรรม
6.ไม่แต่งตั้งผู้จัดการมรดก หรือแต่งตั้งแต่ไม่มีสำรอง
7.ลายมือผู้ทำไม่ชัดหรือเซ็นแทน → ให้ลงลายมือชื่อเต็ม และถ้าลายมือสั่นให้ทำ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
8.แก้ไขข้อความโดยไม่มีการรับรอง → หากมีการขูดลบ/เพิ่ม ให้ลงนามกำกับทุกจุดแก้ไขของทั้งผู้ทำ
ขั้นตอนทำพินัยกรรมของผู้สูงอายุและคนป่วยแบบ “ทำแล้วจบ”
1.นับทรัพย์และรวบรวมเอกสารทั้งหมด
2.เลือกแบบพินัยกรรมให้เหมาะกับสภาพร่างกายผู้ทำ
3.ให้ทนายร่าง–อธิบาย–อ่านทวนต่อหน้า พยาน 2 คน
4.ลงนามทุกหน้า, ให้พยานลงชื่อรับรอง และถ่ายภาพและวิดีโอร่วม
5.เก็บวิดีโอและใบรับรองแพทย์
6.เก็บต้นฉบับในที่ปลอดภัย และทำสำเนา “รับรองถูกต้อง” แจกจ่ายเฉพาะคนจำเป็น เช่น ผู้จัดการมรดก,ตู้เซฟธนาคาร ฯลฯ
สรุปจากทนายในการทำพินัยกรรมของผู้สูงอายุและคนป่วย (สูตร 4 ข้อจำให้ขึ้นใจ)
1.แบบถูก–พยานครบ–ลงนามถูกวิธี
2.พิสูจน์สติ–สมัครใจได้ คือมีใบรับรองแพทย์,วิดีโอ และพยานเป็นกลาง
3.เนื้อหาเฉพาะเจาะจง และแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
4.เก็บรักษาต้นฉบับดี–บอกตำแหน่งให้คนที่ควรรู้
ทำตามนี้ ไม่ว่าพินัยกรรมของ ผู้สูงอายุ หรือ คนป่วย ก็ “ใช้งานได้จริงและทนต่อการโต้แย้ง”สูง หากต้องการสำนักงานช่วยร่างฉบับจริงให้ทันที ติดต่อได้ทันที

หวังว่าบทความที่แก้ไขนี้ จะมีประโยชน์ต่อการเขียนบทความของคุณ หากคุณต้องการคำแนะนำทางกฎหมายเพิ่มเติม ติดต่อเรา
ติดต่อ ปรึกษาทนายคดีมรดกหรือ จ้างทนายคดีมรดก คลิก!