คู่มือทำพินัยกรรม-ผู้สูงอายุ และทำพินัยกรรม-คนป่วย ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
คู่มือทำพินัยกรรม-ผู้สูงอายุ และทำพินัยกรรม-คนป่วย ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หลักกฎหมา
สำหรับหลายคน “คดียาเสพติด-ครั้งแรก” คือเหตุการณ์ที่ทั้งตกใจและสับสน ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน พูดอะไรได้บ้าง หรือควรทำอย่างไรให้เสี่ยงน้อยที่สุด บทความนี้ผมสรุปเส้นทางปฏิบัติแบบทีละขั้น ตั้งแต่วินาทีที่ถูกควบคุมตัวไปจนถึงการขอประกันตัว แนวทางต่อสู้คดี และทางเลือกฟื้นฟูสำหรับ “ผู้เสพ” ที่กฎหมายเปิดช่องไว้
บอกชื่อ–สกุลตามจริง และขอแจ้งญาติ/ทนายทันที คุณมีสิทธิให้ทนายเข้าพบและให้คำปรึกษาก่อนให้การในชั้นสอบสวน และมีสิทธิให้ทนายอยู่ร่วมระหว่างการสอบปากคำในชั้นตำรวจและอัยการ ซึ่งยึดโยงจากหลักสิทธิของผู้ต้องหาในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (เช่น สิทธิให้ทนายว่าความ)
หลีกเลี่ยงการให้การแบบยาว โดยเฉพาะรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับแหล่งที่มา/การติดต่อ จนกว่าจะปรึกษาทนาย เพราะถ้อยคำในชั้นสอบสวนจะถูกใช้เป็นพยานหลักฐานได้
การควบคุมตัวเบื้องต้น โดยทั่วไป ตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ราว 48 ชั่วโมง เพื่อส่งฝากขังต่อศาลตามขั้นตอน
โดยสรุป คดียาเสพติดแบ่งได้ 3 กลุ่มหลัก ๆ
1. ผู้เสพ/มีสารเสพติดในร่างกาย (มักเริ่มจากผลตรวจปัสสาวะ)
2. ครอบครอง (พบของกลางในตัว/รถ/บ้าน)
3. ครอบครองเพื่อจำหน่าย/จำหน่าย/นำเข้า–ส่งออก (พิจารณาจากพฤติการณ์ แพ็คกิ้ง อุปกรณ์ ฯลฯ)
ผู้เสพ “ครั้งแรก” มีทางเลือกฟื้นฟู-บำบัดได้หรือไม่?
แนวคิดของประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 เปิดทาง เน้นการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสำหรับผู้เสพ/ผู้ติด มากกว่าการลงโทษเพียงอย่างเดียว โดยมี “กระบวนการจำแนก” เพื่อส่งเข้ารับการบำบัดในกรณีเหมาะสม (โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจำหน่าย) ซึ่งถูกย้ำไว้ทั้งในสรุปเชิงนโยบายด้านสุขภาพจิตและงานวิชาการที่อธิบายกฎหมายฉบับใหม่ ว่ามุ่งลดการลงโทษผู้ใช้และเพิ่มช่องทางการรักษา
แปลว่าถ้าเป็น “คดียาเสพติด-ครั้งแรก” และพฤติการณ์ชัดว่าเป็นผู้เสพเพื่อการใช้ส่วนตัว สามารถขอให้พิจารณาส่งเข้ากระบวนการบำบัด แทนการลงโทษ
การยื่นประกันตัวนั้น ตามคดีอาญาทั่วไปขอประกันตั้งแต่ชั้นตำรวจ หลังแจ้งข้อหา หรือ ชั้นศาล เมื่อถูกนำตัวไปฝากขัง หลักคือแสดงเหตุว่าผู้ต้องหาไม่หลบหนี ไม่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และมีที่อยู่/งานชัดเจน
แต่คดียาเสพติดมักต้องประกันตัวที่ชั้นศาล เมื่อถูกนำตัวไปฝากขัง และหลักประกันสูงกว่าคดีอาญาทั่วไป และศาลพิจารณาเข้มกว่า โดยเฉพาะกรณีครอบครองจำนวนมากหรือมีพฤติการณ์เพื่อจำหน่าย
คำแนะนำทนาย: เตรียมเอกสารประกอบ เช่น หนังสือรับรองการทำงาน หนังสือรับรองจากผู้ใหญ่บ้านหรือนายจ้าง สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานภาระครอบครัว เพื่อเพิ่มน้ำหนักต่อศาล
1.ชั้นตำรวจ: รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำ ส่งผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ปัสสาวะ และอาจส่ง “คัดกรองผู้เสพ”
2.ชั้นอัยการ: พิจารณาสำนวนว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง รวมถึงแนวทางมาตรการทางเลือกสำหรับผู้เสพ
3.ชั้นศาล: พิจารณาคดี มีทั้งทางยอมรับสารภาพ ทำคำร้องประกอบคำรับสารภาพเพื่อขอลดโทษและรอการลงโทษได้ได้ตามดุลพินิจ หรือสู้คดีว่าการจับกุม/ค้น/ตรวจไม่ชอบ หรือพยานหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ ฯลฯ
ข้อสำคัญ: ถ้ามีประเด็นว่าพยานหลักฐานได้มาโดยมิชอบ (เช่น ค้นโดยไม่มีเหตุอันควรสงสัย/ไม่มีหมายค้นในกรณีที่ควรมี หรือ “ล่อซื้อ” ที่เกินขอบเขต) ฝ่ายจำเลยสามารถยกขึ้นโต้แย้งความชอบด้วยกฎหมายและความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานได้ในชั้นศาล
ควรทำ
1.โทรหาทนายและญาติทันที ขอให้ทนายเข้าร่วมทุกขั้นตอน
2.ขอสำเนาบันทึกจับกุม
3.เก็บพยานเอกสารส่วนตัว – ที่ทำงาน ภาระครอบครัว เพื่อใช้ประกอบการประกัน
4.เปิดใจเรื่องการใช้ยา “ถ้ามี” กับทนาย เพื่อประเมินช่องทางบำบัดตามกฎหมาย
ควรเลี่ยง
1.อย่าลงชื่อรับสารภาพโดยไม่อ่านและไม่ปรึกษาทนาย
2.อย่าตอบนำ หรือเล่าละเอียดเรื่องเครือข่าย
3.อย่าโอนเงินหรือสัญญาจ่ายแก่บุคคลแปลกหน้าเพื่อ “เคลียร์คดี”
4.อย่าทำลายหรือซ่อนพยานหลักฐาน
5.อย่าโพสต์คดีในโซเชียล-ทำให้คุมความเสียหายยากและอาจย้อนทำร้ายคดี
คำถามที่ได้ยินบ่อย (FAQ)
Q: ถ้า “เสพครั้งแรก” จะต้องติดคุกไหม?
A: ไม่จำเป็นเสมอไป หากพฤติการณ์ชัดว่าเป็นผู้เสพเพื่อใช้ส่วนตัว และให้ความร่วมมือกับกระบวนการจำแนกบำบัด ก็มีโอกาสใช้มาตรการทางเลือกด้านการรักษาแทนการลงโทษได้ตามกรณีที่กฎหมายกำหนด
Q: ถ้าผลตรวจปัสสาวะ “ผิดขั้นตอน” ทำอะไรได้บ้าง?
A: ให้ทนายตรวจบันทึกและหลักฐานขั้นตอนการเก็บตรวจ ถ้าพบว่าขัดต่อหลักเกณฑ์ที่ชอบ รวมถึงการละเมิดสิทธิ สามารถยกเป็นประเด็นลดน้ำหนักพยานหลักฐานต่อศาลได้
Q: ประกันได้ไหม? ต้องใช้เงินเท่าไร?
A: ส่วนใหญ่ “ขอประกันได้” แต่จำนวนหลักประกันขึ้นกับพฤติการณ์ (ของกลาง/เสี่ยงหลบหนี/กระทบพยานหลักฐาน ฯลฯ) คดียาเสพติดโดยทั่วไปเข้มกว่าและต้องหลักประกันสูงกว่า ควรให้ทนายเตรียมเหตุผลและเอกสารสนับสนุนให้พร้อม
สรุปจากทนาย: ตั้งหลักให้ถูก เกมจะง่ายขึ้นมาก
คดียาเสพติด ยิ่งเป็น “ครั้งแรก” หัวใจคือ ตั้งหลักให้ไว, ใช้สิทธิอย่างถูกต้อง, และวางแผนตามข้อเท็จจริง
1.ติดต่อทนายทันทีและขอให้ร่วมทุกขั้นตอนสอบสวน
2.เก็บหลักฐานเชิงกระบวนการ (จับกุม–ค้น–ตรวจ) ให้ครบ เพราะ “ขั้นตอนที่ไม่ชอบ” คือจุดพลิกเกมได้
3.ถ้าเป็น ผู้เสพเพื่อใช้ส่วนตัว ให้เปิดทางเลือก “บำบัด–ฟื้นฟู” ตามกฎหมาย เพื่อลดผลกระทบชีวิตระยะยาว
4.เตรียมเอกสารขอประกันและวางตัวน่าเชื่อถือ เพื่อ “ออกมาสู้คดีข้างนอก” ให้ได้
5.เตรียมเอกสารสำหรับทางคดี ทั้งในการรับสารภาพหรือสู้คดี
หากคุณหรือคนใกล้ตัวเพิ่งเจอ คดียาเสพติด-ครั้งแรก และต้องการให้ทีมทนายช่วยประเมินทางเลือก (บำบัด/ต่อสู้ประเด็นค้น–ตรวจ/ขอประกัน/วางแนวรับสารภาพเพื่อลดโทษหรือรอการลงโทษ) ติดต่อปรึกษาได้ครับ เราจะช่วยคุณ “ตั้งหลัก–วางเกม–ลดความเสี่ยง” ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและกฎหมายเพื่อประโยชน์คดีที่สุด
อ่านบทความเพิ่มเติม คดียาเสพติด คลิก!
ติดต่อ ปรึกษาทนายคดียาเสพติด หรือ จ้างทนายคดียาเสพติด คลิก!
คู่มือทำพินัยกรรม-ผู้สูงอายุ และทำพินัยกรรม-คนป่วย ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หลักกฎหมา
ตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ คืออะไร? การตั้งผู้ปกครอง-ผู้เยาว์ ขั้นตอน เอกสาร และเงื่อ
คู่มือหนังสือโนติส: การเขียนโนติสทีละขั้น พร้อมตัวอย่างหนังสือโนติส 3 แบบ (ฉบับท
วิธี “ฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดก” แบบเข้าใจง่าย โดยทนายความ หลายครอบครัวไปติดค้างกันที